Thursday, April 21, 2016

พระธัมมชโย โดนเล่นงานเพราะเมตตาคนไม่ยอมล้างส้วม ตอนที่ 2

จากบทความในตอนที่ 1 เราได้เกริ่นนำถึงนิทานที่ได้ยินได้ฟัง เรื่องการให้โอกาสแก่คนที่ไม่ผ่านบทฝึกเรื่องการล้างขัดห้องนำ้ให้สะอาด ซึ่งบทฝึกนี้ที่คุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงได้ให้ไว้เพื่อเป็นการลดทิฏฐิมานะ ความถือตัว ความทนงตนต่างๆ จากความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียนและภูมิปัญญาที่คิดว่าตนเหนือกว่าคนอื่นๆ คราวนี้จะได้มาเล่าต่อถึงเหตุการณ์ที่ได้ยินได้ฟังมา


บทฝึกการล้างส้วม ล้างห้องน้ำ เพื่อขัดเกลาจิตใจและลดทิฏฐิมานะ

นิสัยโอหังของคนที่ไม่ยอมล้างส้วม


เรื่องนี้ได้ยินจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง บอกว่า นายคนนี้นี่ตลกค่ะ สมัยบวชอยู่ยังไม่ลาสิกขา เขาเคยบอกว่า

"หลวงพี่จะไม่ยอมสึกไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น การสึก เหมือนคนที่ก้มลงดูดก้อนเขฬะที่ตัวเองบ้วนไว้กลับคืนไป" เขาคงลืมคำพูดนี้ แต่ท่านจำได้ดี  

เขามีนิสัยโอหัง ขาดความเคารพ ขาดความกตัญญูมาตั้งแต่บวช บอกกับท่านว่าเบื่อหลวงพ่อทัตตะ เทศน์แต่มงคลสูตร เขามีความสามารถเชิงความจำ แต่ขาดพิจารณา ขาดปัญญาเป็นอย่างมาก


เขาโกรธมากที่สุดในกรณีหนึ่ง ที่แรกก้าวร้าวก้าวก่ายแต่หลวงพ่อทัตตะ แต่ในที่สุดถึงหลวงพ่อธัมมะเลย ไม่แน่ใจว่าจบPhd หรือไม่ เพราะตอนหลังไม่ค่อยยอมเรียนหนังสือ เข้าไปยุ่งกับวาติกัน มีนิสัยใฝ่สูง ทะเยอทะยานมาก ดูถูกคนทั้งหลายด้วย

การบวชของเขาเป็นไปตามความเห็นของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง แต่ไม่ใช่ความเห็นของคุณยายและของวัดพระธรรมกาย เมื่อท่านยินดีให้เข้ามาเป็นภิกษุในวัด ทุกคนก็ยินดีและให้การต้อนรับ แม้การบวชของเขาจะข้ามสิทธิ์ของคนอื่น โดยเฉพาะอุบาสกที่ฝึกตนมาเพื่อบวช


หลวงพ่อธัมมชโยเมตตาอสรพิษร้าย


เมื่อบวชเข้ามา ทุกคนทราบแต่ว่าจะต้องให้ความร่วมมือ ผู้ใหญ่หลายคนที่ทราบว่าการเรียนหนังสือของเขาต้องใช้เงิน ทุกคนก็ถวายปัจจัยผ่านทางหลวงพ่อธัมมชโย

ถ้าพูดถึง "ความรู้ของเขา" จึงพูดได้ว่า
"มาจากปัจจัยของชาววัดพระธรรมกาย"


มีสาธุชนท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า สมัยตนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 เคยร่วมบุญเพื่อการศึกษาต่อปริญญาเอกของนายคนนี้สมัยที่ยังเป็นพระภิกษุ ต้องเสียสละปัจจัยที่มีแค่พอกิน พอใช้อย่างน้อยนิดเพื่อให้เขาได้เรียนจบเพื่อช่วยงานพระศาสนา เมื่อทำบุญแล้วเลยอธิษฐานจิตเสียมากมาย ขอให้ตัวเองได้มีโอกาสไปเรียนสูงๆ บ้าง และในที่สุดเธอก็ได้ทุนมาเรียนต่อที่อังกฤษจนจบปริญญาเอกในที่สุด แต่ก็ไม่นึกว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะกลับกลายมาเป็นบุคคลเช่นนี้ 

ซึ่งจุดประสงค์นั้น เราทราบกันดีว่า องค์กรของเรา คือ วัดพระธรรมกาย มีความปรารถนาจะเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่ชาววัดเรียกท่านว่า"หลวงปู่" และแสวงหาบุคคลที่มีการศึกษาพื้นฐานดี เรียนหนังสืออยู่ในเกณฑ์ดี มีพื้นฐานทางภาษาพอใช้ได้ และมี"หัวใจดวงเดียวกัน"กับท่านทั้งสอง พอดีเขาอยู่ในข่ายนี้ และมีความชัดเจน ณ ตอนนั้นว่าจะ" บวชเพื่อทำหน้าที่ศึกษาวิชาที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นทนายแก้ต่างให้และเพื่อเผยแพร่คุณงามความดีของวิชชาให้สะพัดออกไปในกลุ่มชาวตะวันตก"



การล้างส้วมไม่เป็นบ่งบอกอะไร


ในทางตรงข้าม คุณยายจันทร์ ขนนกยูง ผู้เป็นที่เคารพสูงสุดของหลวงพ่อทั้งสอง และของคนทั้งองค์กรกลับไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ด้วยเหตุที่ฟังดูแล้วดูเหมือนจะไร้เหตุผล คือ "คนๆนี้ล้างส้วมไม่เป็น"

แต่การ"ล้างส้วม" ของคุณยายนั้นมีนัยยะที่สำคัญมาก คือ ถ้าบุคคลใดแม้ส้วมที่ตัวเองใช้ยังล้างให้สะอาดไม่ได้ ถือว่า"หมดดี" หรือ "ดีน้อย"

เพราะ ห้องส้วมและห้องน้ำควรจะเป็นที่ๆสะอาดที่สุด เพราะเราเข้าไปเพื่อปลดความสกปรกทั้งหลายทิ้งไปจากตัว หากห้องที่เข้าไปเพื่อความสะอาดยังไม่สะอาด แสดงว่าตัวเองจะต้องสกปรกออกมา ทั้งห้องอาบน้ำและห้องถ่ายทุกข์ หรือ "ส้วม"

เขามีความไม่เข้าใจตรงจุดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับจบการศึกษาสูงมา
ทำให้มองเห็นงานนี้เป็นสิ่งน่ารังเกียจ เป็นงานที่ไม่สมเกียรติ
เมื่อได้หน้าที่นี้ จึงหาหนทางเลี่ยง โดยการใช้ให้คนอื่นๆหรือน้องๆทำ โดยวิธีการต่างๆ เพื่อให้ดูเหมือนไม่ว่างอยู่ ติดภาระกิจอื่นที่สำคัญอยู่ เลยไม่ได้ลงมือเองสักที หรือทำเองน้อยเต็มทีซึ่งสิ่งเหล่านี้ รอดสายตาหลวงพ่อทั้งสองไป

แต่สำหรับคุณยาย นี้คือเรื่องใหญ่ที่แสดงถึงหลายๆอย่างในตัวเขา
เพราะคุณยายถือว่า จะเป็นใหญ่เป็นโตต่อไป ต้องทำงานทุกอย่างได้ ต้องไม่เลือกงาน ต้องไม่เลี่ยงงาน และต้องไม่ให้ใครมารับภาระในหน้าที่ของตนหรือไม่ทำตนให้เป็นภาระของใคร และต้องปราศจากเสียซึ่งทิฎฐิมานะ


ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องอื่นๆต่อไป ท่านได้อธิบายความสำคัญของการล้างห้องน้ำ ห้องส้วมสักนิดว่าทรงคุณอย่างยิ่งในการชำระทิฏฐิมานะ เพราะถ้าจะประพฤติธรรม เผยแผ่ธรรม และเป็นกัลยาณมิตร ทิฏฐิต้องมีน้อยมาก เพราะจะต้องไปเผชิญ ไปพบ ไปพูดคุยกับคนต่างฐานะ ต่างศักดินาและต่างฐานันดร ถ้าไม่ลดทิฎฐิตนเองแล้ว จะไม่สามารถเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาได้
และเมื่อมีความถือตนอยู่ ว่าเก่งกว่า ฐานันดรทางการศึกษาและครอบครัวดีกว่า มีฐานะกว่า เช่นนี้ ย่อมไม่สามารถเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาได้


สำหรับเขาถือว่าเป็นเช่นนี้ จีงไม่น่าแปลกในเลยว่า ทำไมถึงใฝ่สูง และคิดอยู่ตลอดเวลาว่า "ตนเหนือกว่าใคร" ตราบใดที่คนประเภทนี้ยังได้รับการยอมรับ(บ้าง) ก็ไม่ค่อยจะสำแดงตัวตนเท่าใด แต่เมื่อได้รับการยอมรับมากๆ ก็มักจะคิดว่าตัวเก่งกว่าใครๆที่แวดล้อมอยู่ 


ครั้นไม่ได้รับการยอมรับก็รับไม่ได้ ก็จะค่อยสำแดงฤทธิ์ออกมาทีละน้อย จนถึงมาก จนไม่สามารถอยู่ในที่นั้นได้ จะพูดก็ได้ว่า เขาอยู่วัดไม่ได้ เพราะ ล้างส้วมไม่เป็น ซึ่งตอนนี้พวกเราส่วนใหญ่มีความเข้าใจความสำคัญตรงนี้ดีอยู่แล้ว


เพราะสำหรับพวกเรา การล้างส้วมเป็นสิ่งแรกที่ต้องหัด ต้องทำ และทำให้ดีให้ได้กันทุกคน ทุกหน้าที่ ทุกระดับฐานะและฐานันดร เพราะ การล้างส้วม คือ  การฝึกการลดทิฏฐิมานะ
คือ การฝึกตนเองให้เข้าใจคนอื่น ฝึกตนเองให้มีเมตตา ฝึกตนเองให้มีความอดทน และฝึกตนให้รู้จักความสะอาด รู้จักรับผิดชอบของที่ต้องใช้ร่วมกัน รับผิดชอบความรู้สึกของคนอื่นๆด้วย แต่นิสัยหนึ่งของเขาที่เห็นชัด คือ การยกตนขึ้นเหนือคนอื่น และเห็นคนอื่นต่ำต้อยกว่าตน มีความรู้เท่าใดก็เขียนเท่านั้น แต่ความคิดลึกๆไม่ได้ เพราะปฏิบัติธรรมไม่ได้ดีเท่าที่ควร

ท่านที่สงสัยว่าวัดพระธรรมกายมีดีอย่างไร
ทำไมคนจึงยังศรัทธาหลวงพ่อธัมมชโยอย่างเหนียวแน่น
เป็นเรื่องจริงที่นักข่าวอยากรู้ อ่านได้ที่นี่...
http://www.lifeandlist.net/why_dhammakaya_temple/

12 comments:

  1. ดีมากๆ เลย เขียนด้วยคำง่ายๆ อ่านเข้าใจ คำกระชับ อ่านแล้วเห็นภาพ ชอบมาก เขียนอีกนะคะ อยากรู้ อยากอ่านค่ะ ขออนุโมทนาบุญค่ะ

    ReplyDelete
  2. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  3. คำว่า "หลวงพ่อธัมมชโยเลี้ยงอสรพิษ" เคยถามท่านไหมคะ ว่าณ วันนั้นเวลานั้นน่ะ ด้วยญาณทัศนะท่านเห็นไปในอนาคตหรือเปล่าว่า คนผู้นี้จะเป็นอสรพิษ ถ้าไม่เคยถามฝากถามได้ไหมคะแล้วเอามาเล่าสู่กันฟังหน่อย ว่า ท่านรู้ท่านเห็น อยู่แล้ว หรือท่านไม่ได้ดู แล้วมารู้ทีหลัง ถ้าเป็นอย่างแรก แล้วท่านคิดอย่างไร ท่านจึงปล่อยให้เป็นไปตามนั้น... จะให้ความกระจ่างได้มากขึ้นอีกค่ะ ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งนะคะ สาธุ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เรื่องนี้ค่อนข้างยากที่จะตอบ เพราะผู้อ่านอาจจะเข้าใจผิดท่านได้ แล้วแต่ทัศนะ หากเทียบเคียงก็น่าจะคล้ายกับเรื่องการบวชของพระเทวทัต ซึ่งเป็นเรื่องกรรมในอดีตที่เป็นเรื่องการผูกพยาบาทผ่านมายาวนาน

      Delete
  4. หลวงพ่อท่านคงทราบ แต่คงอยากเปิดโอกาสให้ทำความดีครับ

    ReplyDelete
  5. ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
    หลวงพ่อท่านโดนรังแกมาตลอดแต่อดทน สู้ด้วยความดี และความเงียบ
    ลองอ่านเรื่องราวของท่านดูบ้างนะคะ
    : หลวงพ่อธัมมชโย – 7 เหตุผล ว่าทำไมผู้คนจึงยังศรัทธาท่านอย่างเหนียวแน่น
    หลวงพ่อธัมมชโย

    ReplyDelete
  6. ขอเชิญไปร่วมงานวันวิสาขบูชา ปี 2559 มีโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว 1 ล้านคน :
    วันวิสาขบูชา

    ReplyDelete
  7. พระเดชพระคุณมีปณิธานแน่วแน่ คนที่ยังตามไม่ทันตอนนี้ต่อไปท่านก็หอบหิ้วไปด้วยอยู่ดี ตอนนี้ก็ปล่อยให้เกเรไปก่อน แต่ก็เหมือนกับว่าได้มาตรฐานในการคัดเลือกคนจากกรณีนี้เช่นกันนะครับ

    ReplyDelete
  8. พระเดชพระคุณมีปณิธานแน่วแน่ คนที่ยังตามไม่ทันตอนนี้ต่อไปท่านก็หอบหิ้วไปด้วยอยู่ดี ตอนนี้ก็ปล่อยให้เกเรไปก่อน แต่ก็เหมือนกับว่าได้มาตรฐานในการคัดเลือกคนจากกรณีนี้เช่นกันนะครับ

    ReplyDelete
  9. สาธุ สาธุ สาธุ

    ReplyDelete
  10. เขาชื่ออะไรล่ะคะ บอกมาเลยค่ะท่านเราจะได้มั่นใจว่าท่านพูดจริงค่ะ

    ReplyDelete
  11. อยากไห้ท่านบอกกับญาิโยมมาทีสิคะว่ามันผู้นั้นคือใคร ในเวลานี้แล้วมันยังได้รับความเมตตาจากวัดอีกหรือไม่คะ ข้องใจค่ะไม่เครียค่ะท่าน

    ReplyDelete